แนะนำ 4 โหมด สำหรับ COUNTER. Strike
หากจะพูดถึงเกม Counter – Strike แล้วแล้วก็ อีกสิ่งหนึ่งที่จะมองข้ามไปไม่ได้เลย นั่นก็คือหมด และแผนที่ต่าง ๆ ที่จะได้พบเจอในเกม นั่นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลับเวอร์ชั่นอัพเดทในปัจจุบัน ที่เรียกว่า CSGO หรือ Counter-Strike: Global Offensive นั้น ถือได้ว่า เป็นอีกหนึ่งจุดขาย และความสนุก ที่น่าสนใจเลยทีเดียว และสำหรับ Counter – Strike ในเวอร์ชั่นใหม่นี้ แน่นอนว่าผู้เล่นจะได้พบกับ สิ่งต่าง ๆ ที่แปลกใหม่ ในโหมดและแผนที่ ภายในเกม ซึ่งรับรองได้เลยว่า จะสร้าง อรรถรสให้กับการเล่นเกม เพิ่มขึ้นได้อีก
ทั้งนี้สำหรับใครที่เป็นมือใหม่ จับเกม Counter – Strike นี้ และยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับโหมดและแผนที่ต่าง ๆ ภายในเกม วันนี้เราจะมาแนะนำ 4 โหมดสำหรับ Counter – Strike เพื่อให้ผู้เล่นหน้าใหม่ ได้ทำความเข้าใจ และเตรียมพร้อม ก่อนจะเข้าไปลุย จริงในเกม
โหมด Casual
ในโหมด Casual นี้ จะมี รูปแบบการเล่น แบ่งออกเป็น 10 รอบด้วยกัน โดยผู้เล่น จะต้องเอาชนะให้ได้มากกว่า 6 รอบ จึงจะถือว่าเป็นผู้ชนะในโหมดนี้ ในส่วนของการเล่นนั้น เมื่อผู้เล่นฆ่าตัวละครฝั่งตรงข้ามได้ ก็จะสามารถนำเงินครึ่งหนึ่ง จากการฆ่านั้น มาซื้ออาวุธใหม่ และ สามารถนำมาใช้ภายในเกม
โดยในโหมดนี้ หากเป็นผู้เล่น Counter – Strike ในยุคดั้งเดิมแล้วล่ะก็ จะต้องคุ้นเคยอย่างแน่นอน เพราะในระหว่างการเล่นนั้น ผู้เล่นจำเป็นต้องกดซื้ออาวุธต่างๆเอง รวมไปถึงอาศัยเงินจากการฆ่าเพื่อนำมาใช้ซื้ออาวุธ ทั้งหมดนี้หากจะกล่าวโดยสรุปแล้ว โหมดการเล่นนี้ ก็คือโหมดการเล่น Counter – Strike ในแบบดั้งเดิมนั่นเอง
สำหรับโหมด Casual จะมีแผนที่ให้เล่นทั้งหมด 8 แผนที่ด้วยกัน
โหมด Competitive
สำหรับการเล่นในโหมดนี้ ดูไปแล้วก็มีความคล้ายคลึงกับการเล่นในโหมดที่ 1 มากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการใช้เงินจากการฆ่าฝ่ายตรงข้ามเพื่อซื้ออาวุธ อีกทั้งคู่เล่นยังต้องกดซื้ออาวุธเองในระหว่างการเล่นเกม อย่างไรก็ตามสิ่งที่ต่างออกไปนั้น คือการที่ผู้เล่น สามารถซื้ออุปกรณ์เกี่ยวกับระเบิด และชุดเกราะได้ และอีกหนึ่งความต่าง ของงวดนี้ กลับโหมดที่ 1 นั่นก็คือ เป็นการดวลกันทั้งหมด 30 รอบ นั่นเอง
สำหรับโหมด Competitive จะมีแผนที่ให้เล่นทั้งหมด 8 แผนที่ด้วยกัน
โหมด Demolition
ในการเล่นโหมดนี้ จะไม่อนุญาตให้ผู้เล่นสามารถซื้อปืนด้วยตนเอง แต่จะมีเงื่อนไขการได้รับปืน ที่ดีขึ้น หลังจากสังหารฝ่ายตรงข้ามได้แล้ว รวมถึงทำตามเงื่อนไขต่างๆที่มีกำหนดอยู่ในเเผนที่นั้นๆ สำเร็จ นั่นเอง อีกหนึ่งจุดเด่นของโหมดนี้ คือแผนที่ในเกมนั้น จะได้รับการปรับเปลี่ยนมาจาก Left4Dead นั่นเอง ทั้งนี้หากใครเคยเล่นมาก่อนก็จะถือว่าได้เปรียบมากทีเดียว ในส่วนของจำนวนรอบที่ต้องแข่งนั้น ในโหมดนี้ จำเป็นต้องชนะให้ได้ทั้งหมด 11 เกมด้วยกัน จึงจะถือว่าเป็นผู้ชนะในโหมดนี้อย่างแท้จริง
สำหรับโหมด Demolition จะมีแผนที่ให้เล่นทั้งหมด 6 แผนที่ด้วยกัน
โหมด Arm Race
โหมดนี้ เป็นการเล่นภายใต้เงื่อนไขที่จะต้อง สังหารตัวละครฝ่ายตรงข้าม เพื่อปรับเปลี่ยน อาวุธชิ้นต่อไป สำหรับสิ่งที่จะทำให้เป็นผู้ชนะในเกมนี้ได้นั้น ก็คือการที่ ฝ่ายใดสามารถสังหารศัตรู จนเก็บอาวุธได้ครบทั้งหมด 25 ชิ้นก่อน ก็จะถือว่าเป็นผู้ชนะนั่นเอง ความพิเศษของโหมดนี้จะอยู่ที่ เมื่อถูกฆ่าตายแล้ว จะสามารถเกิดใหม่ได้ทันที ถือว่าเหมาะกับทั้งมือใหม่และผู้เล่น สายบู๊ที่ชอบบุกตะลุยแบบหนักๆ มากเลยทีเดียวสำหรับโหมด Arm Race นี้จะมีแผนที่ให้เล่นเพียง 2 แผนที่ด้วยกัน
และทั้งหมดนี้คือการแนะนำ 4 โหมด สำหรับ Counter Strike ที่เมื่อรู้แล้ว ผู้เล่นมือใหม่ก็จะสามารถเลือกโหมดต่างๆให้เหมาะสม หรือเลือกโหมดที่อยากเล่นได้ ได้ตรงกับความต้องการของตนเองให้ได้มากที่สุด โดยไม่เกิดความสับสนลังเล หรือเลือกโหมดเล่นผิดอีกต่อไป